Grand Dune du Pilat
- Nicha Nelly Victor
- Jan 2, 2020
- 1 min read
Updated: Jan 3, 2020
สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้เราจะมาเล่าถึงประสบการณ์การไป Le Grand Dune du Pilat ใช่ค่ะ กองเนินทรายชื่อดังของเมือง Bordeaux นั่นเอง เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่อง “ไวน์” นะจะบอกให้
ทริปนี้เป็นทริปที่เราอยากจะประหยัด เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินไม่สู้ดีนัก แต่ก็ยังอยากจะเที่ยว เราเลยจองตั๋วรถบัสข้ามคืน ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิดหรอกค่ะ รถบัสนามว่า Flixbus นางขึ้นชื่อว่านานสุด เลทสุด ไม่ไปเป็นไร เรามีเวลากันทั้งคืน
รถบัสของเราออกจากชานชาลา เวลา 23:54น. ระหว่างที่รถเคลื่อนออกจากสถานี Bercy แล้วนั้น ใจเราก็บอกกับตัวเองว่า เอาเหอะ เพื่อความประหยัด เพราะคุณคนขับรถเล่นขับวนอยู่ที่เดิมเป็นเวลา 45 นาทีนั่นเอง เราเล่นมือถือฟังเพลงไป ชวนพี่รันต์คุยไปจนสุดทาง (พี่รันต์คือเพื่อนร่วมทางของเนลเอง)
และแล้วเราก็มาถึงสถานี Bordeaux ตอน 7:45น. อากาศที่ Bordeaux เช้านี้ค่อนข้างหนาวเลยทีเดียว ฝนก็ตกไปอีก เราตัดสินใจเดินทางไปยันกองเนินทรายโดยทันทีที่มาถึง (เพราะบ้านพักอยู่ไกลพอสมควร อีกอย่างลุงเจ้าของบ้านขอให้พวกเราเข้าพักหลังบ่าย 3) แต่แล้วก็พบว่า รถไฟที่จะพาเราไปยันเมืองกองทรายได้ออกจากชานชาลาไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราเลยต้องรอคันต่อไปเป็นเวลา 1 ชั่วโมง พี่ที่ไปด้วยกันทำตั๋วที่ซื้อไว้หาย พวกเราเลยต้องซื้อตั๋วใหม่กัน ไม่พอในความน่าสงสาร พี่เขาทำกาแฟหกรดตัวเองไปอีก ก็นะ ไม่ได้นอนทั้งคืนกาแฟก็ยังไม่ทันเข้าปาก ก็ง่วงเป็นธรรมดา
การเดินทางเมืองปลายทางไม่ได้ลำบากอะไร เพียงแต่นั่นตรงไปจนสุดสาย เพื่อต่อรถเมล์ประจำเมืองอีก 1 ต่อ
แต่แล้ว เราก็พบว่ารถในเมืองไม่วิ่งเพราะเป็นวันหยุดแต่พวกเราไม่รู้ ระหว่างที่รอ ฝนก็ยังคงตกไม่ขาดสาย โชคยังดี มีผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน อีก 3 ราย พวกเราทั้งหมดรวมกันเป็น 5 คน
เราเดินลุยฝนเพื่อไปยังท่าเรือ หวังว่าเราจะไม่ต้องเดินทางเท้ากันไป (8 ก.ม.) ปรากฎว่า เรือก็ไม่วิ่งจ้า เนื่องจากสภาพอากาศในวันนั้นหนาวและลมแรงเกินไป

พวกเราทั้ง 5 ยังไม่ถอดใจ พวกเราได้เสนอว่า ขับรถยนต์เช่าระบบไฟฟ้าไปกันดีไหม แต่ก็ล่มเพราะไม่มีใครเป็นสมาชิกรายปีกันสักคน ไม่พอถึงจะมีเครื่องก็กดรหัสก็เสียในวันนั้น
ไม่เป็นไร Marie หนึ่งในผู้ร่วมทางได้เสนอให้พวกเราเหมา taxi ไปกัน
เราทุกคนตกลง Marie คนสวยได้โทรจอง taxi สำหรับ 5 คน ไม่มีคันไหนว่างสำหรับ 5 คน มีแต่ 4 คน เราไม่อยากทิ้งใครไว้หรือจ่าย 2 เท่า (2 คัน) ทางบริษัทจึงขอให้พวกเรารอกันอีก 2 ชั่วโมง เราทุกคนพร้อมใจรอ ระหว่างที่รอ พวกเราดื่มกาแฟร้อน ๆ เพื่อประคองอาการหนาวของทุกคน แลกเปลี่ยนข้อมูลและพูดคุยกัน ในที่สุดรถก็มารับพวกเราเสียที
วันนี้อากาศแทบจะไม่เป็นใจให้เราเลย ทั้งฝนทั้งลม เป้ที่แบกไปรวมถึงกล้องก็ชุ่มไปด้วยน้ำ ซึมไปถึงเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ที่ต้องใช้ในวันถัดไป
กว่าจะลากตัวเองมาถึงยอดเนิน ก็เล่นซะหอบกันไปหลายยกเลยทีเดียว

พอมาถึงยอดเนินเท่านั้นแหละ ถามว่าคุ้มไหม ก็คุ้มนะ ถึงจะมีลมตีทั้งทรายทั้งน้ำฝนเข้าปากเข้าตาก็เหอะนะ

เราชมวิวบนกันจนฉ่ำแล้วก็ลงมารอ taxi พากลับไปยังสถานีรถไฟเพื่อกลับไป Bordeaux
เราเสียค่า taxi กันประมาณ 12€ (ไปกลับ) ก็คุ้มแหละ จะคุ้มว่าถ้ามีบัส เพราะจะเสียแค่ 2€ ไปกลับ อิอิ

การเดินทางรอบนี้สอนให้เรารู้ว่ามิตรภาพนั้นสร้างได้ทุกที่ และที่สำคัญ ถ้าเราไม่ท้อทุกอย่างมักจะมีทางออกของมันอยู่เสมอ แต่เราก็ต้องพยายามคู่ไปกับการมีสติ





Comments